iPad mini 5 หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า “iPad mini รุ่นที่ 5” เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 แต่ด้วยคุณสมบัติที่ยังตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีเยี่ยม ทั้งการอ่านอีบุ๊ก เล่นเกม ดูหนัง หรือใช้เพื่อเรียนและทำงานเบื้องต้น จึงยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในปี 2025 นี้ โดยเฉพาะเมื่อคุณมองหาสมาร์ตแท็บเล็ตจอเล็กในงบประมาณไม่เกิน 10,000 บาท
สเปคและประสิทธิภาพของ iPad mini 5
แม้จะเป็นรุ่นที่เปิดตัวมาหลายปีแล้ว แต่ iPad mini 5 ก็ยังคงโดดเด่นด้วยชิป A12 Bionic ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับงานทั่วไปและความบันเทิงทุกรูปแบบ ตัวเครื่องมาพร้อม RAM 3GB และมีให้เลือกทั้งความจุ 64GB และ 256GB ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างยิ่ง
-
ชิปประมวลผล: A12 Bionic (6-core CPU, 4-core GPU)
-
RAM: 3GB
-
ความจุ: 64GB / 256GB
-
แบตเตอรี่: ใช้งานได้สูงสุดประมาณ 10 ชั่วโมง
-
OS ที่รองรับสูงสุด: iPadOS 17 (ยังได้รับการอัปเดตต่อเนื่อง)
ดีไซน์กะทัดรัด พกพาง่ายเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
จุดขายของ iPad mini 5 คือขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 300 กรัมเท่านั้น จอภาพ Retina ขนาด 7.9 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี True Tone ที่ช่วยปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตขนาดเล็กในการอ่านหนังสือหรือใช้งานขณะเดินทาง
-
ขนาดตัวเครื่อง: 203.2 × 134.8 × 6.1 มม.
-
น้ำหนัก: 300.5 กรัม (Wi-Fi), 308.2 กรัม (Wi-Fi + Cellular)
-
หน้าจอ: Retina Display, ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล
กล้องที่ตอบโจทย์ใช้งานทั่วไป
iPad mini 5 มาพร้อมกล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 7MP ซึ่งเพียงพอต่อการถ่ายภาพเบื้องต้น วิดีโอคอล หรือใช้ประชุมออนไลน์ในยุคการทำงานแบบไฮบริด
-
กล้องหลัง 8MP, รูรับแสง f/2.4, ถ่ายวิดีโอ 1080p
-
กล้องหน้า 7MP, รูรับแสง f/2.2, รองรับ FaceTime HD
การรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1
หนึ่งในจุดเด่นของ iPad mini 5 คือสามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถวาดภาพ จดบันทึก หรือใช้ในแอปสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น โดยไม่จำเป็นต้องซื้อ iPad รุ่น Pro หรือรุ่นใหม่กว่าในราคาสูง
ความสามารถด้านมัลติมีเดียและการเชื่อมต่อ
-
ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ
-
รองรับ Wi-Fi ac และ Bluetooth 5.0
-
รุ่น Cellular รองรับ nano-SIM และ eSIM
-
พอร์ต Lightning สำหรับชาร์จและเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก
ถึงแม้จะยังคงใช้พอร์ต Lightning แทนที่จะเป็น USB-C แต่ก็ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สะดวก โดยเฉพาะผู้ที่มีอุปกรณ์ Apple รุ่นก่อนหน้าซึ่งใช้สายแบบเดียวกัน
ระบบปฏิบัติการที่ยังอัปเดตได้ต่อเนื่อง
ในปี 2025 iPad mini 5 ยังคงสามารถใช้งาน iPadOS 17 ได้อย่างราบรื่น ซึ่งหมายความว่ายังสามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้อีกหลายปี เช่น:
-
การใช้งาน Split View และ Slide Over
-
วิดเจ็ตบนหน้าจอโฮม
-
แอป Freeform และฟีเจอร์วาดแบบ collaboration
-
การ Sync กับ iCloud, AirDrop, Universal Clipboard และอื่น ๆ
เหมาะกับใครในปี 2025
-
ผู้ใช้ที่ต้องการแท็บเล็ตขนาดเล็ก พกพาสะดวก
-
นักเรียน นักศึกษา หรือผู้เริ่มต้นใช้งาน iPad
-
นักอ่านอีบุ๊กที่ต้องการหน้าจอ True Tone
-
ผู้ที่มีงบจำกัด แต่อยากได้ประสบการณ์ใช้งานแบบ Apple
เปรียบเทียบ iPad mini 5 กับรุ่นใหม่กว่า
คุณสมบัติ | iPad mini 5 | iPad mini 6 |
---|---|---|
จอภาพ | 7.9 นิ้ว Retina | 8.3 นิ้ว Liquid Retina |
พอร์ต | Lightning | USB-C |
ชิป | A12 Bionic | A15 Bionic |
Apple Pencil | รุ่นที่ 1 | รุ่นที่ 2 |
Touch ID | ปุ่มโฮม | ปุ่มเปิดเครื่องด้านบน |
แม้ iPad mini 6 จะทันสมัยกว่า แต่ราคาก็สูงกว่าเช่นกัน หากคุณไม่ต้องการฟีเจอร์ใหม่ ๆ iPad mini 5 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก
ราคาปัจจุบันในปี 2025
-
iPad mini 5 มือหนึ่ง (อาจหาได้ยาก): เริ่มต้นประมาณ 10,900 บาท
-
iPad mini 5 มือสอง: ราคาอยู่ระหว่าง 6,000 – 8,500 บาท แล้วแต่สภาพและความจุ
-
Apple Pencil รุ่นที่ 1 (ใหม่): ประมาณ 3,200 บาท
จุดเด่นของ iPad mini 5
-
ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
-
ยังรองรับ iPadOS เวอร์ชันล่าสุด
-
ประสิทธิภาพดีเกินราคา
-
รองรับ Apple Pencil สำหรับงานสร้างสรรค์
-
แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ทั้งวัน
ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อ
-
ไม่รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2
-
ไม่มี Face ID
-
ยังใช้พอร์ต Lightning
-
ลำโพงอยู่ด้านเดียว ไม่ใช่ 4 ตัวแบบรุ่นใหม่
สรุป: iPad mini 5 ยังน่าซื้อไหมในปี 2025
หากคุณกำลังมองหา iPad ที่ขนาดเล็ก พกพาง่าย ใช้งานลื่นไหล และราคาไม่แรงจนเกินไป iPad mini 5 ยังถือว่า “คุ้มค่า” สำหรับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะผู้ใช้งานทั่วไป เด็กนักเรียน หรือผู้ที่ใช้งานแท็บเล็ตเพื่อความบันเทิงและการอ่าน