หลังจาก iPhone 17 Series เปิดตัวในเดือนกันยายนที่ผ่านมา กระแสตอบรับก็แรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่หลายคนรีบหาซื้อเครื่องใหม่ตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย แต่สิ่งที่มักมาพร้อมกับ iPhone รุ่นใหม่เสมอก็คือ “ภารกิจตามหาเคสที่ดีที่สุด” เพราะถึงแม้ iPhone 17 จะมาพร้อมกระจกที่แข็งแรงและวัสดุระดับพรีเมียม แต่การป้องกันรอยขีดข่วนและแรงกระแทกยังคงเป็นสิ่งจำเป็น
บทความนี้จะพาคุณมาดู “เคส iPhone 17 ที่ดีที่สุดในไทยปี 2025” ที่ทั้งสวย ทน รองรับ MagSafe และใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมคำแนะนำในการเลือกให้เหมาะกับแต่ละสไตล์ครับ
ทำไมต้องใส่เคส iPhone 17?
แม้ iPhone 17 จะใช้วัสดุเกรดสูงขึ้นกว่าเดิม ทั้งรุ่นปกติและรุ่น Pro ที่เปลี่ยนมาใช้ “Grade 5 Titanium” ซึ่งเบาและทนต่อแรงบิด แต่ก็ไม่สามารถกันตกได้ 100% การใส่เคสจึงเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันได้หลายอย่าง เช่น
- กันกระแทกเมื่อตกจากที่สูง
แม้ตกเพียงครึ่งเมตร หากตกในมุมที่พอดี หน้าจอก็สามารถร้าวได้ทันที - ป้องกันรอยขีดข่วนจากกระเป๋า / กุญแจ / เหรียญ
โดยเฉพาะรุ่นสีเข้มที่รอยจะเห็นชัดมาก - ช่วยให้จับถนัดมือมากขึ้น
เพราะ iPhone รุ่นใหม่มีขอบเรียบ อาจลื่นได้ง่าย - เพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน
เช่น เคสที่มีขาตั้งในตัว หรือมีช่องใส่บัตรสำหรับพกพา
เคส iPhone 17 ที่หาซื้อได้ในไทย (พร้อมจุดเด่น)
ต่อไปนี้คือเคสที่มีจำหน่ายในประเทศไทยจากแบรนด์หลักทั้ง Apple และผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมชื่อดัง ซึ่งทุกตัวรองรับการใช้งานกับ iPhone 17 / iPhone 17 Pro / iPhone 17 Pro Max
1. Apple Silicone Case with MagSafe
- ราคา: ประมาณ 1,990 บาท
- ร้านจำหน่าย: Apple Store, iStudio, Power Buy
- เหมาะกับ: ผู้ใช้ที่ชอบดีไซน์เรียบหรู จับถนัดมือ และอยากได้เคสที่เข้ากับตัวเครื่องได้พอดี
เคสซิลิโคนของ Apple เป็นรุ่นคลาสสิกที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมาหลายปี จุดเด่นคือวัสดุซิลิโคนที่นุ่ม ไม่เก็บรอยนิ้วมือ และภายในบุด้วยไมโครไฟเบอร์เพื่อป้องกันรอยที่ตัวเครื่อง ขอบเคสยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อป้องกันกล้องและหน้าจอ รองรับ MagSafe เต็มรูปแบบ
2. Apple TechWoven Case with MagSafe (รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2025)
- ราคา: 1,912 – 2,390 บาท
- ร้านจำหน่าย: Studio 7, SiamTV, Apple Online Store
- เหมาะกับ: ผู้ใช้ที่ต้องการเคสวัสดุพิเศษ “ผ้า TechWoven” ที่ดูพรีเมียมและมีเอกลักษณ์
Apple เปลี่ยนวัสดุจากหนังมาเป็น TechWoven ที่มีพื้นผิวคล้ายผ้าทอ มีความทนทานสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จุดเด่นคือให้สัมผัสนุ่มมือ ดูดีแบบแฟชั่น พร้อม MagSafe ในตัว เหมาะกับคนที่อยากได้เคสพรีเมียมไม่เหมือนใคร
3. Apple Clear Case with MagSafe
- ราคา: ประมาณ 1,890 บาท
- ร้านจำหน่าย: PowerBuy, Studio 7, Apple Store
- เหมาะกับ: คนที่อยากโชว์สีเครื่อง iPhone 17 ใหม่แบบชัดเจน
เคสใสแท้จาก Apple ผลิตจากโพลีคาร์บอเนตผสม TPU คุณภาพสูง ไม่เหลืองง่าย และป้องกันรอยนิ้วมือได้ดี รองรับการชาร์จ MagSafe ด้วยแม่เหล็กในตัว เหมาะกับผู้ที่ซื้อ iPhone สีใหม่ เช่น สี Desert Titanium หรือ สีDeep Ocean ที่อยากโชว์ตัวเครื่องเต็มที่
4. Spigen Ultra Hybrid MagFit
- ราคา: ประมาณ 1,190 บาท
- ร้านจำหน่าย: Shopee, Lazada, Power Mall
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการเคสใสกันกระแทกที่แข็งแรง
Spigen เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคุ้มค่า รุ่น Ultra Hybrid ใช้วัสดุด้านหลังเป็นโพลีคาร์บอเนตแข็งและขอบ TPU ที่ดูดซับแรงกระแทกได้ดี รองรับ MagSafe ด้วยวงแหวนแม่เหล็กในตัว มีมาตรฐาน Military-Grade Drop Protection
5. CASETiFY Impact Case
- ราคา: ประมาณ 2,490–2,990 บาท
- ร้านจำหน่าย: CASETiFY Thailand, Apple Central World, Online Store
- เหมาะกับ: คนที่ชอบเคสดีไซน์ลายกราฟิกสวยและอยากได้การป้องกันสูงสุด
CASETiFY โดดเด่นเรื่องความแข็งแรงและความหลากหลายของลวดลาย เคส Impact รุ่นใหม่สำหรับ iPhone 17 ใช้เทคโนโลยี EcoShock ที่กันตกได้จากความสูงกว่า 2 เมตร พร้อมรองรับ MagSafe ทุกฟังก์ชัน เหมาะกับสายแฟชั่นที่อยากได้ทั้งความสวยและความปลอดภัย
6. UAG Monarch Pro Kevlar
- ราคา: ประมาณ 2,790 บาท
- ร้านจำหน่าย: Jaymart, iStudio, Mercular, UAG Thailand
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการเคสกันกระแทกระดับสูงสุด
UAG (Urban Armor Gear) Monarch Pro ใช้วัสดุ Kevlar และขอบ TPU หนาเป็นพิเศษ ผ่านการทดสอบตกจากที่สูงกว่า 6 ฟุต เหมาะกับสายลุยหรือคนที่ทำงานนอกสถานที่ รองรับ MagSafe และขอบเลนส์ยกสูงป้องกันกล้อง
7. ESR Classic Hybrid Case
- ราคา: 990 บาท
- ร้านจำหน่าย: Lazada, Shopee
- เหมาะกับ: ผู้ใช้ที่ต้องการเคสบาง ราคาไม่แรง แต่รองรับ MagSafe
เคส ESR รุ่น Classic Hybrid ใช้วัสดุใสแข็งแรง พร้อมวงแหวนแม่เหล็ก MagSafe ในตัว บางแต่ทน เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายและราคาเข้าถึงได้
8. Pitaka MagEZ Case 4
- ราคา: ประมาณ 2,990 บาท
- ร้านจำหน่าย: Mercular, Pitaka Thailand
- เหมาะกับ: ผู้ใช้สายมินิมอลที่ต้องการเคสบางเบาที่สุดในตลาด
Pitaka ใช้วัสดุ Aramid Fiber (เส้นใยเดียวกับเสื้อเกราะกันกระสุน) ที่ให้สัมผัสเรียบลื่นและบางเฉียบเพียง 0.95 มม. รองรับ MagSafe เต็มรูปแบบ เคสรุ่นนี้มีน้ำหนักเบามาก เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบความหนาและต้องการโชว์ความสวยของตัวเครื่อง
เปรียบเทียบเคสยอดนิยม iPhone 17
รุ่นเคส | วัสดุหลัก | รองรับ MagSafe | ระดับกันกระแทก | ราคาโดยประมาณ | สไตล์ผู้ใช้ |
---|---|---|---|---|---|
Apple Silicone Case | ซิลิโคน + ไมโครไฟเบอร์ | ✅ | ปานกลาง | ฿1,990 | เรียบหรู จับถนัด |
TechWoven Case | ผ้า TechWoven | ✅ | ปานกลาง | ฿2,390 | แฟชั่นพรีเมียม |
Clear Case | โพลีคาร์บอเนตใส | ✅ | ปานกลาง | ฿1,890 | โชว์สีเครื่อง |
Spigen Ultra Hybrid | TPU + PC | ✅ | สูง | ฿1,190 | สายกันกระแทก |
CASETiFY Impact | TPU + EcoShock | ✅ | สูงมาก | ฿2,990 | แฟชั่น / สายตกบ่อย |
UAG Monarch Pro | Kevlar + TPU | ✅ | สูงสุด | ฿2,790 | สายลุย Outdoor |
ESR Hybrid | TPU ใส | ✅ | ปานกลาง | ฿990 | ราคาคุ้มค่า |
Pitaka MagEZ | Aramid Fiber | ✅ | ต่ำ | ฿2,990 | มินิมอล บางเฉียบ |
เคล็ดลับเลือกเคส iPhone 17 ให้เหมาะกับการใช้งาน
- พิจารณาการใช้งานประจำวัน
- ใช้ในออฟฟิศหรือบ้าน เลือกเคสบางหรือใส
- ใช้นอกสถานที่หรือขับรถบ่อย เลือกแบบกันกระแทกสูง
- เลือกระดับการป้องกันตามพฤติกรรมการใช้งาน
ถ้าคุณมักทำเครื่องตกบ่อย ควรเลือกเคสที่มีมาตรฐาน MIL-STD เช่น UAG หรือ Spigen - อย่าลืมเรื่อง MagSafe
iPhone 17 ทุกโมเดลรองรับ MagSafe ดังนั้นควรเลือกเคสที่มีแม่เหล็กในตัว เพื่อให้ใช้งานอุปกรณ์เสริมได้เต็มประสิทธิภาพ เช่น แท่นชาร์จ แบตเตอรี่เสริม หรือกระเป๋า MagSafe Wallet - อย่ามองข้ามเรื่องน้ำหนัก
เคสกันกระแทกบางรุ่นอาจเพิ่มน้ำหนักเครื่องเกือบ 40 กรัม ถ้าคุณชอบเครื่องเบา ควรเลือกแบบบางหรือวัสดุ Aramid - ทดสอบการกดปุ่มและตัดพอร์ต
เคสดี ๆ ต้องกดปุ่มได้ง่ายและไม่เกะกะเวลาเสียบสาย Lightning หรือ USB-C
สรุป: เคส iPhone 17 แบบไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด?
- ถ้าคุณต้องการความ พรีเมียมและเข้ากับดีไซน์เครื่องมากที่สุด → Apple TechWoven Case คือคำตอบ
- ถ้าอยากได้ กันกระแทกสุดแกร่งแต่ยังดูดี → CASETiFY Impact หรือ UAG Monarch Pro
- ถ้าชอบเคสบาง เบา สัมผัสดี → Pitaka MagEZ Case 4
- ถ้าต้องการเคสราคาไม่แพงแต่คุณภาพดี → Spigen Ultra Hybrid MagFit หรือ ESR Classic Hybrid
ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน สิ่งสำคัญคือการเลือกเคสที่ “เหมาะกับไลฟ์สไตล์” ของคุณมากที่สุด เพราะเคสไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์ป้องกันเท่านั้น แต่ยังสะท้อนตัวตนและรสนิยมของผู้ใช้ iPhone ด้วย