Arashiyama นั้นเป็นสถานที่ฮิตฮอตในการพักผ่อนหย่อนใจ ตั้งอยู่ในระแหวกชานเมือง Kyoto ฝั่งตะวันตก โดย Arashiyama นั้นเป็นอีกที่ที่คนไทยเรานิยมไปเที่ยวกันนะครับ และที่มีชื่อเสียงเลยก็คือ Bamboo Forest หรือป่าไผ่ ตอนเราไปนั้นมีพาเด็ก ๆ ไปด้วย 2 คน ผู้ใหญ่ 4 คน พวกเราเช่ารถขับไปจาก Osaka ครับ พร้อมด้วยรถเข็นเด็ก 1 คัน ก็ต้องบอกว่าขอเดินทางกันให้สบายหน่อย เพราะมีเด็กเล็ก การเที่ยวในสถานที่นอกเมืองแบบนี้ กับเด็กเล็ก 2 คนจะเป็นไงนั้น เดี๋ยวเราไปดูกันเลยครับ
แนะนำที่เที่ยวญี่ปุ่น เดือนเมษายน 2023 ไม่ได้มีแค่ซากุระนะ ~
การเดินทางไป Arashiyama
การเดินทางก็อย่างที่บอกไปครับ วันที่เราไป Arashiyama นั้นเราเดินทางโดยการเช่ารถไปนะครับ เราเช่ารถจาก Toyota Rent A Car โดยเฉพาะที่สาขา Abeno Station Shop ครับ รถที่เราเช่าก็จะเป็น Toyota Sienta ตัว HYBRID เน้นนั่งได้ 4 คน + รวมเด็กอีก 2 คน (เราสามารถ Request car seat ได้) ค่าเช่า 1 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 13,750 JPY
หลังจากไปรับรถที่ Toyota Rent A Car Abeno Station Shop ก็ขับวนไปรับทุกคนที่พัก Joytel Hotel Shinsekai ครับ รอบนี้เราได้โอกาสจอดรถในที่จอดเอกชนด้วย ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ถ้าเมืองไทยเราทำบ้าง คงจะเป็นระเบียบดีครับ (ค่าจอดแพงอยู่ครับ เพราะใกล้สถานที่ท่องเที่ยวอย่าง Shinsekai)
.
ขาไป Osaka – Kyoto
เราเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ Osaka (เปิด Google Map ไป) และกินข้าวกลางวันกันที่ Suita SA Inbound ใช้เวลาราว ๆ 22 นาทีจาก Joytel Hotel Shin Sekai หลังจากพักกินข้าว เราก็เดินทางต่อไปที่ Arashiyama อีกราว ๆ 50 นาทีครับ ที่พักรถที่ญี่ปุ่นนั้นดีมาก เสียดายผมถ่ายรูปมาน้อยไปหน่อย คือ จะมีร้านอาหาร ที่จัดการได้ดี มีร้านของฝากก็จัดการได้ดีเช่นกัน สามารถกินและซื้อกันได้อย่างจริงจังเลยครับ
ขากลับ Kyoto – Osaka
ก่อนกลับเราขับรถไปแถววัดน้ำใสไปหาซื้อของฝากครับ ก่อนที่จะตีรถกลับมายัง Osaka โดยขากลับขับมาทางฝั่งตะวันออกของ Osaka ใช้เวลาราว ๆ 55 นาที ก็ถือว่าเป็น One Day Trip ที่ขับรถได้สนุกดีครับ
Arashiyama ประวัติ
Arashiyama (嵐山) เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของเหล่าขุนนาง ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัย Heian (794-1185) ตั้งอยู่ที่ฝากตะวันตกของกรุงเกียวโต Arashiyama มีความโดดเด่นสุดในช่วงซากุระบาน และ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนั้นเองครับ สิ่งที่เป็น Landmark ของ Arashiyama คงหนีไม่พ้นสะพาน Togetsukyo ซึ่งเป็นสะพานทางเข้าสู่ Arashiyama โดยมีความยาวอยู่ที่ 155 เมตร ข้ามแม่น้ำ Katsura ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม โดยได้รับการ Renovate เป็นสะพานปูนในปี 1935
Arashiyama มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
1. Arashiyama Bamboo Forest
แน่นอนว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่ง Landmark ที่มีชื่อเสียงมาก ๆ สำหรับคนไทยและคนทั่วโลกนะครับ เวลาเข้าไปแล้วเหมือนเราหลุดไปอยู่อีกโลกนึง โลกที่เต็มไปด้วยต้นไผ่อันสูงลิ่ว ยังไงใครไปก็ต้องถ่ายรูปกับป่าไผ่ครับ Landmark นี้เราไม่พลาดครับ
ถือว่าพวกเราโชคดีอยู่ข้างที่ระหว่างที่เราเดินไปคนก็ค่อย ๆ น้อยลง พอจะได้มีโอกาสถ่ายรูปกับเค้าบ้าง ที่พวกเราสังเกตุได้อีกอย่างนึงคือ ที่นี่มีบริการรถเข็นแบบสมัยเก่า เพื่อน ๆ สามารถที่จะหาเช่าชุดกิโมโนนั่งบนรถเข็น ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศได้เลยนะครับ
2. Tenryu-ji Temple
เป็นวัดที่อยู่ก่อนถึง Bamboo Forest นิดเดียวครับ เป็นอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวสำคัญใน Arashiyama เป็นวัดนิกายเซน มีวิวและทิศทัศน์อันสวยงาม นอกจากเราจะได้ไปไหว้สัการะแล้ว เรายังได้ดึ่มด่ำกับบรรยากาศอันสุดยอดอีกด้วย
3. Kameyama-Koen Park
เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งถัดจากวัด Tenryu-ji ไปอีกนิดหน่อยครับ ถ้าใครเดินเล่นแล้วเหนื่อยกับผู้คน เราสามารถปลีกวิเวศมานั่งพักผ่อนกับธรรมชาติ คลุกคลีกับฝูงลิงภายใต้บรยยากาศแบบ hill top ได้ที่สวนแห่งนี้เลย
4. Okochi – Sanso Villa
Okochi Sanso Villa ก็เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบเช่นกันครับ จะอยู่ทางตอนเหนือของ Kameyama-Koen Park เดินไปไม่ไกลมาก มีหมู่บ้านเก่าแก่ให้เยี่ยมชม และที่สำคัญ ฟรี !
5. Rakushisha Poet’s Hut
ถ้าเพื่อน ๆ ชอบแนวชนบทแบบกระท่อมหลังคามุงจากหน่อย ก็จะชอบเจ้า Rakaushisha นี้ด้วยครับ เพราะมันเป็นกระท่อมหลังเก่าของลูกศีษย์กวีชื่อดังอย่าง Matsuo Basho ถ้าใครอยากเข้าไปสัมผัสใกล้ ๆ ก็จะมีค่าเข้าอยู่ที่ 200 JPY
6. Jojako-ji Template
Jojako-ji ถือว่าเป็นวัดที่มีเสน่ห์แปลกตาน่าค้นหา โดยมันอยู่ในเส้นทางหลักของการท่องเที่ยวใน Arashiyama อีกด้วย นี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เพื่อน ๆ สามารถหนีผู้คนเข้ามาอยู่ในวัดนี้ได้ครับ
จริง ๆ Arashiyama ยังมีที่ให้เที่ยวได้มากกว่านี้ เพื่อน ๆ สามารถที่จะหาที่พัก หรือจะเป็น Ryokan มาพักได้เลยครับ ที่เที่ยวเยอะมาก สามารถเที่ยวได้เต็มวันได้กันเลยทีเดียว
Arashiyama บรรยากาศ
ต้องบอกก่อนเลยว่า ตอนที่พวกเราไปกัน พวกเราไปในเดือนกุมภาพันธ์ บรรยากาศก็จะหนาวมาก ต้นไม้อะไรก็จะแห้งเหี่ยวหน่อยนะครับ แต่ก็ยังคงความสวยงามตามธรรมชาติ ผมชอบที่นี่มาก เราเข็นรถเข็นเด็ก 1 คัน กับจูงมือเด็กอีก 1 คนได้อย่างสะดวกสบาย รอบ ๆ ข้างจะมีบ้านเก่า ๆ ร้านค้าขายของกันคึกคักมาก ๆ เลยครับ
อากาศค่อนข้างหนาวมากครับ น่าจะไม่เกิน 10 องศา แต่เด็ก ๆ ก็แฮปปี้มาก ๆ รูปด้านบนจะเป็นร้านขายของ Rilakkuma ก็มีที่ที่เตรียมไว้ให้แขกไปใครมาถ่ายรูปได้ด้วยครับ
บรรยากาศและอากาศระหว่างทางเดินไปนั้นแจ่มใสมาก ถนนหนทางก็สะอาด อย่างที่ผมบอกในข้างต้นว่า เพื่อน ๆ สามารถที่จะเช่าชุดกิมโมโน เดินเล่นได้ด้วยครับ จะเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวใส่ชุดกิโมโนเดินเล่น ไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นก็ตามครับ
ระหว่างสะพาน Togetsukyo ไปจนถึง Bamboo Forest เส้นทางก็สะดวกสบาย รถเข็นเด็กสามารถเข็นได้อย่างสะดวกสบาย เส้นทางก็อาจจะเป็นเนินเล็กน้อยครับ แต่ไม่ได้ลำบากในการเดินแต่อย่างใดครับ แม้แต่ผู้สูงอายุ ก็สามารถมาเดินเล่นได้ชิว ๆ เผื่อเพื่อน ๆ จะพาคุณพ่อคุณแม่มาครับ
สองข้างทางก็เต็มไปด้วยร้านค้าน้อยใหญ่เต็มไปหมดครับ ด้านขวามือสุดของรูปจะเป็นรถเข็นรับจ้าง เค้าจะพาเราไปจนถึงรอบ ๆ Bamboo Forest เลยครับ
สภาพลูกสาวผมหลังจากที่ไม่ได้เจอแดดมา 2-3 วัน และอากาศอยู่ราว ๆ 0-8 องศาครับ 555
บทสรุป รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น Arashiyama เช่ารถไปกลับ Osaka – Kyoto
ก็ต้องบอกว่า เราไม่ได้เที่ยวทุกที่ที่เป็น Landmark สำคัญของ Arashiyama เพราะเวลาคงจะไม่พอครับ มันมีสถานที่เที่ยวรอบ ๆ เยอะมาก ๆ ไม่ได้มีแค่ Bamboo Forest แบบที่เราคิดกันตอนแรก แถมตอนเราไป เราไปอยู่กันประมาน 2 ชั่วโมงแค่นั้นเอง ไม่ทันแน่ ๆ ถ้าเพื่อน ๆ จะมาพักผ่อนที่ Arashiyama ทางเราก็แนะนำว่า ควรจะมาสัก 1 วันเต็ม หาที่พักที่กินแล้วก็เดินเล่นเที่ยวให้สนุกไปเลยครับ
อย่างที่บอกว่าไม่ได้มีแค่ Bamboo Forest มันยังมีวัด มีบ้าน มีวัฒนธรรม ศิลปกรรมสมัยเก่า ให้เดินชมอย่างเพลิดเพลินครับ โอกาสหน้าถ้าพวกเรามีโอกาสไป Kyoto เราก็จะไปอีกแน่นอน เพราะชอบมากครับ
วิธีเดินทางอื่น ๆ มาที่ Arashiyama
จาก Osaka Station
- 【Osaka Sta.】ー Hankyu Kyoto Line → Hankyu Arashiyama Line → 【Kami-katsura Sta.】→ เดินต่ออีก 3 กิโลเมตร
เว็บไซต์ : https://www.japan-guide.com/e/e3912.html